วันพฤหัสบดีที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

วังกษัตริย์คนอสซอส (PALACE OF KNOSSOS)

วังกษัตริย์คนอสซอส (PALACE OF KNOSSOS)




คนอสซอส (อังกฤษ: Knossos หรือ Knossus หรือ Cnossus, กรีก: Κνωσός) หรือที่เรียกว่า Labyrinth” (วงกต) หรือ พระราชวังคนอสซอสคือศูนย์โบราณคดีที่ใหญ่ที่สุดของยุคสัมริดบนเกาะครีตที่อาจจะใช้เป็นสถานที่สำหรับบริหารราชการและทำพระราชพิธีของอารยธรรมและวัฒนธรรมมิโนอันพระราชวังเป็นกลุ่มห้องอันซับซ้อนที่ประกอบด้วยห้องทำงาน, ที่อยู่อาศัย และ ที่เก็บของไม่ไกลจากจตุรัสกลางพระราชวัง บนผนังของพระราชวังเป็นภาพรายละเอียดของชีวิตชาวครีตในปลายยุคสัมริด ในปัจจุบันคนอสซอสเป็นสถานที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวเพราะตั้งอยู่ใกล้กับเมืองใหญ่เฮราคลิออน คนอสซอสได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์เป็นอันมากโดยนักโบราณคดีชาวอังกฤษเซอร์อาร์เธอร์ อีแวนส์
เมืองคนอสซอสมีความสำคัญจนตลอดสมัยคลาสสิคและสมัยโรมัน แต่ชาวเมืองย้ายไปอยู่ในเมืองฮันดัคซึ่งเป็นเมืองใหม่ (ปัจจุบันเฮราคลิออน) ระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 9 เมื่อมาถึงคริสต์ศตวรรษที่ 13 คนอสซอสก็มีชื่อใหม่ว่า มาครีเทคอส” (Makryteikhos หรือ กำแพงยาว”) แต่พระสังฆราชแห่งกอร์ทินยังคงเรียกตนเองว่าสังฆราชแห่งคนอสซอสมาจนกระทั่งถึงคริสต์ศตวรรษที่ 19[1] ในปัจจุบันคำว่า คนอสซอสใช้เฉพาะในการเรียกศูนย์โบราณคดีที่ตั้งอยู่ที่ปริมณฑลของเมืองเฮราคลิออนเท่านั้น



การสร้างบันไดมหึมาที่อาศัยเสาไม้ซีดาร์ รองรับ โดยเสาแต่ละต้นรับน้ำหนักไว้เพียบ และถ่ายทอดต่อกันลงมา เป็นชั้นๆ หรือระบบแสงสว่างที่สถาปนิกออกแบบ โดยวางตำแหน่งของหน้าต่างและประตูได้อย่างเหมาะเจาะ นอกจากนี้ ยังมีระบบระบายน้ำฝังใต้อาคารซึ่งนอกจากระบายน้ำฝนแล้วก็ยัง ระบายน้ำชำระล้างได้ด้วย ทันสมัยกว่าบางอาคารสมัยนี้เสียอีก

    เสน่ห์ดึงดูดใจของผู้มาเยี่ยมชมวังแห่งนี้ คือตำนานที่เล่าลือว่ากษัตริย์ ไมนอส แห่งครีต ได้สร้างที่คุมขังอสูรสัตว์ตัวหนึ่งไว้ในบริเวณวังนี้ด้วย นั่นคือ ไมโนทอร์ ที่มีลักษณะเป็นครึ่งมนุษย์ครึ่งวัว และที่คุมขังมันก็คือ แลบบิรินธ์ อันสลับซับซ้อนเป็นเขาวงกตที่เรารู้จักกันดีนั่นเอง 





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น