วันพฤหัสบดีที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

วิหารโรมัน

วิหารโรมัน



สถาปัตยกรรมการก่อสร้างมหาวิหารในยุโรปตะวันตก เป็นบทความที่บรรยายถึงลักษณะสิ่งก่อสร้างของมหาวิหารทางคริสต์ศาสนา ที่รวมทั้งสิ่งก่อสร้างที่มีลักษณะใกล้เคียงกับมหาวิหารในยุโรปตะวันตก
มหาวิหาร หรือ อาสนวิหาร คือคริสต์ศาสนสถานที่มีมุขนายก หรือพระสังฆราช (bishop) เป็นประมุข และเป็นวัดที่เป็นที่นั่งของสังฆราช (วัดประจำตำแหน่ง) ที่ใช้เป็นศูนย์กลางของมุขมณฑล หรือสังฆมณฑล (Diocese หรือ See) ที่อยู่ใต้การปกครองของสังฆราชที่กำหนดไว้[1] มหาวิหารเป็นที่เป็นที่ตั้งของ อาสนะสังฆราช” (bishop's cathedra) และเป็นสถานที่ทางคริสต์ศาสนาที่ใช้ในการสักการะบูชา (โดยเฉพาะสำหรับนิกายที่มีระบบฐานันดรการปกครองเช่นนิกายโรมันคาทอลิก นิกายออร์โธด็อกซ์ หรือ นิกายอังกลิคัน) ขนาดของสิ่งก่อสร้างที่เป็นมหาวิหารไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งก่อสร้างที่ใหญ่โตเสมอไป อาจจะมีขนาดเล็กอย่างเช่นมหาวิหารอ๊อกซฟอร์ด หรือ มหาวิหารเชอร์ที่ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ก็ได้ แต่โดยทั่วไปแล้วมหาวิหารมักจะเป็นสิ่งก่อสร้างที่ใหญ่ที่สุดและเด่นที่สุดในท้องถิ่นที่ตั้งอยู่[2]
เหตุผลที่ทำให้มหาวิหารมักจะเป็นสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่คือ:
§  มหาวิหารเป็นสิ่งก่อสร้างที่สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระเจ้า ฉะนั้นจึงเป็นสิ่งก่อสร้างที่ใหญ่ที่สุดและโอฬารที่สุดเท่าที่ฐานะและความเชี่ยวชาญจะอำนวย[3]
§  มหาวิหารเป็นวัดประจำตำแหน่งของสังฆราชและเป็นที่กระทำคริสต์ศาสนพิธี หรือการบวชซึ่งเป็นพิธีที่มีผู้เข้าร่วมพิธีกันมากทั้งสังฆบุคลากรและผู้เลื่อมใสศรัทธาอื่นๆ
§  มหาวิหารเป็นที่ประชุมและพบปะทั้งทางศาสนาและทางกิจกรรมของชุมชน ไม่เฉพาะแต่ชุมชนในท้องถิ่น ในบางโอกาสจะเป็นสถานที่สำหรับการพบปะหรือประชุมทั้งคริสต์มณฑล หรือในการประชุมระดับชาติ
§  มหาวิหารส่วนใหญ่เคยเป็นสำนักสงฆ์มาก่อน จึงอาจจะเคยมีพระจำพรรษาอยู่ในวัดเป็นจำนวนมาก พระที่จำพรรษาจะอยู่อาศัยและทำงานในวัดรวมทั้งกิจการหลักคือใช้วัดเป็นที่สวดมนต์และวิปัสนากันวันละหลายครั้ง และบางครั้งก็อาจจะสวดมนต์แยกกันออกไปตามคูหาสวดมนต์เล็ก หรือทำวิปัสนาเป็นส่วนตัวภายในมหาวิหาร
§  มหาวิหารในบางครั้งใช้เป็นที่ฝังศพของผู้อุปถัมภ์วัดที่ร่ำรวย ซึ่งอาจจะยกเงินถวายวัดเพื่อการขยายเพิ่มเติมหรือบูรณปฏิสังขรณ์ มหาวิหารจึงต้องมีขนาดใหญ่เพื่อให้สมกับฐานะของผู้ศรัทธา
§  บางครั้งมหาวิหารมักจะเป็นที่เก็บรักษาวัตถุมงคลของนักบุญหรือผู้มีความสำคัญทางศาสนา ซึ่งเป็นสิ่งดึงดูดผู้มาแสวงบุญเป็นจำนวนมาก
§  มหาวิหารเป็นสิ่งก่อสร้างคู่บ้านคู่เมืองที่แสดงถึงฐานะความมีหน้ามีตาของเมืองที่ตั้ง



สังฆราชเริ่มมีบทบาททางการบริหารวัดมาตั้งแต่สมัยคริสเตียนยุคแรกราวคริสต์ศตวรรษที่ 1[4] หลังจากนั้นอีกสองร้อยปีต่อมาจึงได้มีการก่อสร้างมหาวิหารขึ้นเป็นครั้งแรกที่กรุงโรม หลังจากคริสต์ศาสนาถูกประกาศให้เป็นศาสนาที่ถูกต้องตามกฎหมายของจักรวรรดิโรมันโดยพระเจ้าคอนสแตนตินที่ 1 เมื่อปี ค.ศ. 313 การก่อสร้างวัดก็แพร่ขยายขึ้นอย่างรวดเร็ว ที่โรมเองก็มีการสร้างมหาวิหารใหญ่ถึงห้าแห่ง วัดทั้งห้าแห่งนี้ถึงจะมีการบูรณะปฏิสังขรณ์หลายครั้งแต่ก็ยังเป็นวัดที่ใช้ในการทำพิธีศาสนากันมาจนถึงทุกวันนี้ เช่นมหาวิหารเซนต์จอห์นแลเตอร์รันที่วาติกัน[5]
รูปทรงของมหาวิหารก็ขึ้นอยู่กับการใช้สอยทางคริสต์ศาสนพิธีและองค์ประกอบอื่นๆ มหาวิหารก็เช่นเดียวกับวัดคริสต์ศาสนาโดยทั่วไป คือเป็นสถานที่สำหรับการประกอบพิธีกรรมทางศาสนา เป็นที่อ่านคัมภีร์ เป็นที่เทศนา เป็นที่ร้องเพลงสวด และเป็นที่สวดมนต์ของนักบวชและคริสต์ศาสนิกชน ความแตกต่างของมหาวิหารจากวัดธรรมดาคือสิ่งใดที่ทำในมหาวิหารจะใหญ่กว่าและมีกระบวนการมากกว่า โดยเฉพาะเมื่อมีการจัดพิธีการสำคัญๆ ที่บาทหลวงเป็นผู้ประธานเช่น การทำพิธีศีลกำลัง (Confirmation) หรือ การบวช (Ordination) นอกจากนั้นมหาวิหารยังเป็นสถานที่ทำพิธีที่เกี่ยวข้องกับท้องถิ่นหรือรัฐบาลที่ไม่ใช่พิธีทางศาสนาโดยตรง เช่นการแต่งตั้งนายกเทศมนตรี หรือ การทำพิธีสวมมงกุฎกษัตริย์ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของมหาวิหาร[3]
นอกจากนั้นมหาวิหารมักจะเป็นสถานที่ที่นักแสวงบุญพากันมาสมโภชวันสำคัญๆ ทางศาสนา หรือมาสักการะคูหาที่เป็นที่เก็บวัตถุมงคลของนักบุญองค์ใดองค์หนึ่ง ฉะนั้นทางปลายด้านตะวันออกของมหาวิหารที่มักใช้เป็นที่เก็บร่างหรือวัตถุมงคลของนักบุญจึงมักจะต้องทำให้กว้างใหญ่เพียงพอทีจะต้อนรับขบวนนักแสวงบุญที่พาเข้ากันมาสักการะวัตถุมงคลของนักบุญ[6]
แม้ว่าสิ่งก่อสร้างส่วนใหญ่ที่ครอบคลุมในบทความนี้จะกล่าวถึงสถาปัตยกรรมทางศาสนาของมหาวิหารแต่นอกจากมหาวิหารแล้วก็ยังรวมสถาบันที่มีองค์ประกอบคล้ายมหาวิหารข้างล่างนี้ด้วย
§  บาซิลิกา (Basilica) คำว่า บาซิลิกาใช้ได้สองอย่าง ความหมายแรกทางสถาปัตยกรรมตามคำบรรยายของศาลโรมันคือเป็นสถานที่สำหรับการพบปะและทำธุรกิจ ความหมายที่สองทางศาสนาเป็นคำที่ใช้เรียกวัดบางวัดในนิกายโรมันคาทอลิกซึ่งอาจจะเป็นมหาวิหารหรือไม่เป็นก็ได้ แต่เป็นที่ใช้ประกอบพิธีที่สำคัญและเป็นวัดที่แต่งตั้งโดยพระสันตะปาปาให้เป็น บาซิลิกา
§  มินสเตอร์ หรือ มุนสเตอร์ (Minster หรือ Münster) เป็นคำที่ใช้เรียกมหาวิหารที่เคยเป็นสำนักสงฆ์(Monastery) มาก่อน ในบางกรณีสำนักสงฆ์อาจจะได้รับเลื่อนฐานะขึ้นเป็นมหาวิหารโดยเฉพาะในอังกฤษและเยอรมนีระหว่างการปฏิรูปศาสนา
§  วัดอีก 5 วัดที่มีลักษณะเช่นมหาวิหาร
§   
§  บาซิลิกาซานวิทาเล (Basilica of San Vitale) ราเวนนา ประเทศอิตาลี
§  บาซิลิกาซานมาร์โค (St. Mark's Basilica) เวนิส ประเทศอิตาลี
§  แอบบีเวสต์มินสเตอร์ (Westminster Abbey) ลอนดอน อังกฤษ






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น